วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ข้อสอบ กว. ข้อ 21-30

ข้อ21 Right of Way  หมายถึงอะไร
1.    เขตทางหลวง
2.    เขตหวงห้าม
3.    เขตแนวบริเวณก่อสร้างทาง
4.    เขตการจราจร
แนวคิด  Right of Way หมายถึง แนวเขตที่ดินเพื่อการเวนคืน ที่รู้จักกันดีในประเทศไทยก็คือ เวนคืนเพื่อการสร้างถนน สำหรับ Right of way ยังหมายถึง สิทธิในเขตทาง การขอใช้สิทธิในการปักเสา ตั้งเสา พาดสาย หรือวางท่อในกิจการโทรคมนาคม ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรวมถึงแนวเวนคืนเพื่อการวางท่อแก๊ส หรือโครงการสาธารณูปโภคอื่นๆ 
----------------------------------------------------------------------- 
ข้อ22 ในการก่อสร้างทางใหม่เราจะพ่นยางลงบนพื้นหินคลุก (Base Coarse) ก่อนทำผิวทางการพ่นยางนั้นเรียกว่าอะไร
       1.    Tack Coat
       2.    Binder Coat
       3.    Seal Coat
       4.    Prime Coat
แนวคิด    ข้อ 18.
----------------------------------------------------------------------- 
ข้อ23 การปู Asphalt Concrete ลงบนผิวทางเก่าเราเรียกว่าอะไร
1.    Fog Seal
2.    Overlay
3.    Seal Coat
4.    Prime Coat
แนวคิด    ข้อ 15. 
-----------------------------------------------------------------------
ข้อ24 การบดอัดดินในสนาม ค่าความชื้นในมวลดิน (Optimum Moisture Content) ยินยอมให้ผิดพลาดได้ไม่เกินเท่าใดของค่าควบคุมการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
          1.    ±1%
          2.    ±3%
          3.    ±5%
          4.    ±7%
แนวคิด    การถมบดอัดดิน (CLAYEY AND SILTY MATERIALS)
       1 การถมและบดอัดดิน ต้องกระทำโดยการใช้เครื่องจักรกล
         2 เครื่องจักรกลที่ใช้บดอัด ต้องเป็นชนิดเดียวกัน และน้ำหนักเท่ากัน
         3 ต้องตรวจสอบความชื้นของดินที่บ่อยืมดิน ( BORROW PITS ) ก่อนนำมาใช้งานถ้าความ
ชื้นเกินเกณฑ์กำหนด (ความชื้นที่จุ OPTIMUM ±3%) ห้ามนำดินนั้นมาใช้งาน
         4 การถม ให้ถมเกลี่ยเป็นชั้น ๆ ในแนวราบ
         5 ความหนาของดิน แต่ละชั้นเมื่อบดอัดได้ที่แล้ว ต้องมีความหนาตามเกณฑ์ต่อไปนี้
             . ถ้าใช้ลูกกลิ้งตีนแกะ ( SHEEPSFOOT ROLLER ) ดินแต่ละชั้นต้องหนาไม่มากกว่า 2/3
ของความยาวของตีนแกะ หรือหนาไม่เกิน 15 เซนติเมตร แล้วแต่กรณีไหนจะน้อยกว่ากัน
             . ถ้าใช้เครื่องกระทุ้งดิน ( POWER TAMPER ) หรือทำการกระทิ้งด้วยแรงคน  ความหนา
ของดินแต่ละชั้นเมื่ออัดแน่นแล้วต้องไม่เกิน 15 เซนติเมตร
         6 ดินถมแต่ละชั้นต้องเกลี่ยให้กระจายสม่ำเสมอ ถ้าดินเป็นก้อนต้องทำให้แตกกระจายและ
แผ่ออกโดยตลอด  
         7 ดินแต่ละชั้นต้องมีความชื้นเท่ากันโดยสม่ำเสมอ
 -----------------------------------------------------------------------
ข้อ25 ยางมะตอยน้ำที่ใช้ทำสเลอลี่ซิล (Slurry Seal) ใช้ยางประเภทใด
          1.    CRS - 1 h
          2.    CMS - 1 h
          3.    CSR - 1 h
          4.    CSS - 1 h
แนวคิด    เพราะ  มาตรฐานการฉาบผิวทางแบบสเลอรี่ซีล (SLURRY SEAL) หมายถึง การฉาบผิวทางเดิมหรือทำผิวทาง บนพื้นทางที่ได้ทำการไพรมโคท (PRIME COAT) ไว้แล้ว ด้วยส่วนผสมของมวลรวมที่มีขนาดคละกันดี (WELL GRADED) กับแอสฟัลต์อิมัลชันและน้ำ รวมทั้งวัสดุชนิดละเอียด (MINERAL FILLER) และ วัสดุแอสฟัลต์อิมัลชัน ซึ่งได้แก่ CSS-1 หรือ CSS-1h ต้องมีคุณสมบัติตาม มาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 371-2530 : แคตอิออนิกแอสฟัลต์อิมัลชันสำหรับถนน และได้รับ การรับรองมาตรฐาน   ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบคุณภาพ มอก. ISO-9002 หรือ แอสฟัลต์อิมัลชันชนิดอื่น ซึ่งกรมทางหลวงชนบทเห็นชอบแล้ว
-----------------------------------------------------------------------
ข้อ26 งานตัดหินผุ (Soft Rock Excavation ) ควรใช้เครื่องจักรหนักในข้อใด
          1.    Crawler Tractor
          2.    Farm Tractor
          3.    Motor Grader
          4.    Front End Loader
แนวคิด    เพราะ งานตัดหินผุ หมายถึง งานตัดคันทางโดยวัสดุที่ขุดขึ้นเป็นหินผุ ซึ่งจะพิสูจน์ทราบได้ โดยใช้รถคันดินตีนตะขาบ (Crawler Tractor) พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ใบคราด (Ripper) มีขนาดกำลังเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 270 แรงม้า อยู่ในสภาพใช้งานได้ดีโดยมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 28เมตริกตัน จึงจะสามารถขุดออกได้ ส่วนการดำเนินการขุดหินผุหลังจากการพิสูจน์ทราบแล้ว
-----------------------------------------------------------------------
ข้อ27 งานก่อสร้างผิวทางแบบ Single Surface Treatment ยางน้ำที่ใช้คือยางประเภทใด
          1.    CMS
          2.    CSS-1
          3.    CRS-2
          4.    MC-70
แนวคิด    เพราะ CRS-2 หรือ ชื่อทางเคมี แคตอิออนิคแอสฟัลต์อีมัลชั่น สูตรทางเคมี แอสฟัลต์ในสารละลายที่ประกอบด้วยน้ำ อีมัลซีไฟอิ่งเอเจนต์และกรดไฮโดรคลอริค ประเภทแยกตัวเร็ว การใช้ประโยชน์ยางมะตอยชนิดอิมัลชั่น ใช้ยางชนิดนี้ใช้สำหรับงานพ่นลาดยางเช่น Chip Seal , Tack Coat และSingle Surface Treatment
CRS-2 มีข้อมูลทางกายภาพและเคมี ดังนี้
- จุดเดือด 100 องศาเซลเซียส
- การละลายได้ในน้ำ ผสมน้ำได้
- ความหนาแน่น 1.0 กก. / ลิตร ที่ 25 องศาเซลเซียส
- ลักษณะสีและกลิ่น ของเหลว, มีกลิ่นไฮโดรคาร์บอน
- ความเป็นกรด/ด่าง 2 – 3
- ความหนืด 100 – 400 ที่ 50 องศาเซลเซียส
-----------------------------------------------------------------------
ข้อ28 การพ่นลาดยางแอลฟัลท์ประเภทที่มีความหนืดต่ำลงบนพื้นทางที่บดอัดแน่นเรียกว่า
          1.    Prime Coat
          2.    Tack Coat
          3.    Seal Coat
          4.    Fog Seal
แนวคิด    เพราะ งานลาดแอสฟัลต์ PRIME COATหมายถึง การลาดแอสฟัลต์ชนิดเหลวลงบนพื้นทางที่บดอัดแน่นที่เตรียมไว้ และได้ตกแต่งปรับปรุงถูกต้องแล้ว เพื่อให้แอสฟัลต์ซึมลงไปในช่องว่างของพื้นทาง ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ความชื้นผ่าน และเป็นตัวยึดเหนี่ยวให้พื้นทางเชื่อมต่อกับผิวทาง
-----------------------------------------------------------------------
 ข้อ29 การพ่นยางมะตอยเป็นตัวเชื่อมระหว่างชั้นผิวทางเดิมและลาดทับด้วยหินขนาด 1/2 นิ้วNo.8 เรียกว่าอะไร
1.    Prime Coat
2.    Tack Coat
3.    Seal Coat
4.    Fog Seal
แนวคิด    เพราะ การฉาบผิวโดยวิธี Seal Coat หมายถึง การฉาบผิวทางเดิมที่แตกหรือสึกหรอโดยการราดยางแอสฟัลต์แล้วปิดทับด้วย Aggregate เพื่ออุดรอยแตกและปรับปรุงผิวทางที่สึกหรอ -----------------------------------------------------------------------
ข้อ30 การพ่นยางมะตอยลงบนผิวทางเก่า (ทั้งผิวทางลาดยางหรือผิวทางคอนกรีต) เพื่อเชื่อมยึดผิวทางเก่ากับผิวทางใหม่เรียกว่าอะไร
1.    Prime Coat
2.    Tack Coat
3.    Seal Coat
4.    Fog Seal
แนวคิด    เพราะ งานลาดแอสฟัลต์ Tack Coat  หมายถึง การลาดแอสฟัลต์ชนิดเหลวลงบนผิวทางเดิม Prime Coat ที่ทิ้งไว้นานจนไม่สามารถเป็นตัวยึดเหนี่ยวกับชั้นผิวทางที่จะก่อสร้างใหม่ หรือลงบนรองผิวทางที่จะก่อสร้างผิวทางทับลงไป
----------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น